เมียกลับจากตลาดร้องเรียกหาผัวอยู่นานไม่ตอบ พอเดินไปดูถึงกับช็อก รีบคว้ามีดวิ่งเข้าช่วยทันที !!

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.ทรงกลด อุปฮาด รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม  รับ แจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 962/1...





เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.ทรงกลด อุปฮาด รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม  รับ

แจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 962/1 ถนนอภิบาลบัญชา ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร ร.พ.นครพนม และกู้ภัยนครพนม



ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง เรียงกันกว่า 10 คูหา ใกล้ห้องครัวข้างทางเดินซอกตึกกว้าง 1 เมตร  พบศพนายสมพงษ์  ศรีศักดิ์เลขา วัย 58 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม พ่อค้าไส้อั่วและแบ่งแบ๋ว ซึ่งเป็นอาหารเวียดนามในตลาดโต้รุ่ง  สภาพศพสวมเสื้อยืดคอโปโลแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ที่บริเวณลำคอเขียวซ้ำ  มือเท้าซีดเชียว

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง เรียงกันกว่า 10 คูหา ใกล้ห้องครัวข้างทางเดินซอกตึกกว้าง 1 เมตร  พบศพนายสมพงษ์  ศรีศักดิ์เลขา วัย 58 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม พ่อค้าไส้อั่วและแบ่งแบ๋ว ซึ่งเป็นอาหารเวียดนามในตลาดโต้รุ่ง  สภาพศพสวมเสื้อยืดคอโปโลแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ที่บริเวณลำคอเขียวซ้ำ  มือเท้าซีดเชียว



ใกล้กันพบเชือกไนล่อนสีขาวสลับแดงยาว 2 เมตร ผูกโยงกับขื่อไม้หน้าสาม  และพบเชือกไนล่อนยาว 60 ซ.ม.ที่ถูกตัดแล้วตกอยู่  นอกจากนี้ยังพบเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินสูงประมาณ 60 ซ.ม.ในที่เกิดเหตุ  แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจนานประมาณ 20 นาที
นางบุญเติม ศรีศักดิ์เลขา อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า น้องสาวผู้ตายเพิ่งพาพี่ชายไปรับยาจิตเวชที่ รพ.ศรีธัญญา ที่กรุงเทพฯในวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่งกลับมาบ้านได้ 2 วัน หลังสามีเป็นโรคเครียดซึมเศร้าและนอนไม่หลับมาหลายปี  ก่อนเกิดเหตุตรยังพูดคุยกับสามี 15 นาที ก่อนบอกว่าจะไปส่งแบ่งแบ๋วให้ลูกค้าที่ตลาดสดเทศบาล  ขากลับสามีได้เตรียมสิ่งของจะไปขายที่ตลาดโต้รุ่ง  จึงร้องเรียกแต่ไม่ตอบรับ  จึงวิ่งหารอบบ้าน  ก่อนพบร่างสามีห้อยโตงเตง  จึงวิ่งไปคว้ามีดในครัวมาตัดเชือกจนขาด  แล้วอุ้มร่างสามีก่อนเรียกญาติมาช่วยปั้มหัวใจนาน 20 นาที  แต่ไม่สามารถเยื้อชีวิตไว้ได้

ระหว่างที่รอแพทย์เวร ร.พ.นครพนม มาชันสูตรพลิกศพ  นางบุญเติม ภรรยาผู้ตายและน้องสาวผู้ตาย  ต่างห้องไห้ฟูมฟายปิ่มใจจะขาด  ญาติที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเข้ามาปลอบประโลม  หลังเจ้าเจ้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลังฐานเสร็จ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย  จึงได้มอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

Cr:https://www.siamnews.com

Cr:https://khaosudee.blogspot.com/2017/10/blog-post_37.html

You Might Also Like

0 comments