thai news online
เมียกลับจากตลาดร้องเรียกหาผัวอยู่นานไม่ตอบ พอเดินไปดูถึงกับช็อก รีบคว้ามีดวิ่งเข้าช่วยทันที !!
October 21, 2017

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.ทรงกลด อุปฮาด รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับ
แจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 962/1 ถนนอภิบาลบัญชา ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร ร.พ.นครพนม และกู้ภัยนครพนม

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง เรียงกันกว่า 10 คูหา ใกล้ห้องครัวข้างทางเดินซอกตึกกว้าง 1 เมตร พบศพนายสมพงษ์ ศรีศักดิ์เลขา วัย 58 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม พ่อค้าไส้อั่วและแบ่งแบ๋ว ซึ่งเป็นอาหารเวียดนามในตลาดโต้รุ่ง สภาพศพสวมเสื้อยืดคอโปโลแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ที่บริเวณลำคอเขียวซ้ำ มือเท้าซีดเชียว
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง เรียงกันกว่า 10 คูหา ใกล้ห้องครัวข้างทางเดินซอกตึกกว้าง 1 เมตร พบศพนายสมพงษ์ ศรีศักดิ์เลขา วัย 58 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม พ่อค้าไส้อั่วและแบ่งแบ๋ว ซึ่งเป็นอาหารเวียดนามในตลาดโต้รุ่ง สภาพศพสวมเสื้อยืดคอโปโลแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ที่บริเวณลำคอเขียวซ้ำ มือเท้าซีดเชียว

ใกล้กันพบเชือกไนล่อนสีขาวสลับแดงยาว 2 เมตร ผูกโยงกับขื่อไม้หน้าสาม และพบเชือกไนล่อนยาว 60 ซ.ม.ที่ถูกตัดแล้วตกอยู่ นอกจากนี้ยังพบเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินสูงประมาณ 60 ซ.ม.ในที่เกิดเหตุ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจนานประมาณ 20 นาที
นางบุญเติม ศรีศักดิ์เลขา อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า น้องสาวผู้ตายเพิ่งพาพี่ชายไปรับยาจิตเวชที่ รพ.ศรีธัญญา ที่กรุงเทพฯในวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่งกลับมาบ้านได้ 2 วัน หลังสามีเป็นโรคเครียดซึมเศร้าและนอนไม่หลับมาหลายปี ก่อนเกิดเหตุตรยังพูดคุยกับสามี 15 นาที ก่อนบอกว่าจะไปส่งแบ่งแบ๋วให้ลูกค้าที่ตลาดสดเทศบาล ขากลับสามีได้เตรียมสิ่งของจะไปขายที่ตลาดโต้รุ่ง จึงร้องเรียกแต่ไม่ตอบรับ จึงวิ่งหารอบบ้าน ก่อนพบร่างสามีห้อยโตงเตง จึงวิ่งไปคว้ามีดในครัวมาตัดเชือกจนขาด แล้วอุ้มร่างสามีก่อนเรียกญาติมาช่วยปั้มหัวใจนาน 20 นาที แต่ไม่สามารถเยื้อชีวิตไว้ได้
ระหว่างที่รอแพทย์เวร ร.พ.นครพนม มาชันสูตรพลิกศพ นางบุญเติม ภรรยาผู้ตายและน้องสาวผู้ตาย ต่างห้องไห้ฟูมฟายปิ่มใจจะขาด ญาติที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเข้ามาปลอบประโลม หลังเจ้าเจ้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลังฐานเสร็จ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงได้มอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
Cr:https://www.siamnews.com
Cr:https://khaosudee.blogspot.com/2017/10/blog-post_37.html
0 comments